เมนู

ข้อมูล “ศัลยกรรมจมูก” ต้องระวัง ก่อนจมูกเบี้ยว จมูกทะลุ จมูกติดเชื้อ จมูกไหล

การผ่าตัดศัลยกรรมเสริมความงามเป็นอีกหนึ่งทางเลือกความสวยให้กับคนยุคใหม่ได้มีโอกาสเปลี่ยนตัวเองให้ได้รับโอกาสใหม่ ๆ ได้เร็วที่สุด โดยเฉพาะการผ่าตัดศัลยกรรมจมูกที่เรียกได้ว่าเป็นการศัลยกรรมยอดฮิตสำหรับคนไทย เพราะองศาจมูกเปลี่ยน รูปหน้าก็เปลี่ยน แต่ทั้งนี้การผ่าตัดศัลยกรรมทุกอย่างมีความเสียง ซึ่งการผ่าตัดเสริมจมูกก็เช่นเดียวกัน หากเลือกคลีนิคที่ไม่ได้มาตรฐาน ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาหลังผ่าตัดดังนี้ค่ะ

1. จมูกทะลุ

สาเหตุของจมูกทะลุเกิดมาจากแท่งซิลิโคนที่ยาวเกินพอดี ทำให้ส่วนปลายจมูกแหลมเกินไปหรือมีลักษณะใสจนเกือบเห็นเนื้อซิลิโคน ซึ่งอาจเกิดจากความไม่ชำนาญและขาดประสบการณ์ของแพทย์ที่เลือกแท่งซิลิโคนที่โด่งเกินไปไม่เหมาะสมกับลักษณะจมูกของคนไข้ หรือเลือกใช้วัสดุ แข็งเกินไป และหากคนไข้ไม่ดูแลตนเอง เช่น พักผ่อนน้อย สัมผัสแผลบ่อย ไม่ดูแลทำความสะอาด ก็ทำให้จมูกทะลุได้เช่นกัน

2. จมูกติดเชื้อ

หลังจากการเสริมจมูกจะมีอาการบวมซึ่งเป็นเรื่องปกติ จะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือน กว่าจะกลับมาเป็นปกติ ซึ่งต่างจากจมูกที่ติดเชื้อโดยจะมีน้ำขุ่นๆ หรือหนองไหลออกจากแผล สาเหตุอาจจะมาจากการรับประทานอาหารแสลง เช่น ของหมักดอง การสัมผัสบ่อย จับแผล เกา ลูบบริเวณแผลบ่อย จนทำให้เกิดอาการอักเสบ รวมถึงการกระทบกระเทือนจากการจาม ไออย่างรุนแรง จนทำให้เกิดการกระแทกจนอักเสบได้

3. จมูกไหล

เกิดจากการที่แท่งซิลิโคนที่ผ่าตัดเสริมไม่แน่นพอ โดยสามารถโยกขึ้นลง เลื่อนไปซ้ายขวา หรือเคลื่อนย้ายไปจากตำแหน่งเดิม หากปล่อยไว้นานอาจจะทำให้เกิดซิลิโคนทะลุ ควรรีบปรึกษาแพทย์

4. จมูกเบี้ยว

จมูกเบี้ยวมีหลายรูปแบบ ได้แก่ โคนเอียง ปลายเอียง และแท่งจมูกเอียงทั้งหมด โดยจมูกเบี้ยวมีหลายสาเหตุ เช่น ฐานจมูก (ฮัมพ์) เดิมคดหรือเอียงอยู่แล้ว เมื่อเสริมซิลิโคนเข้าไปทำให้เอียงตามกัน เมื่อวางแท่งซิลิโคน ทำให้ซิลิโคนเลื่อนไปด้านหลังและเอียง เช่นเดียวกับผู้ที่มีโพรงจมูกไม่เท่ากัน ก็จะทำให้เกิดความชันของจมูกที่ไม่เท่ากัน และนำไปสู่จมูกเบี้ยวในที่สุด ส่วนจมูกที่มีลักษณะตรง สังเกตได้จากจุดกึ่งกลางระหว่างคิ้ว หัวตา และจุดกึ่งกลางของปลายจมูก จะอยู่กึ่งกลางของริมฝีปากบนพอดี

ขอบคุณข้อมูลจาก www.matichon.co.th/lifestyle/news_253693

การผ่าตัดศัลยกรรมเสริมความงามเป็นอีกหนึ่งทางเลือกความสวยให้กับคนยุคใหม่ได้มีโอกาสเปลี่ยนตัวเองให้ได้รับโอกาสใหม่ ๆ ได้เร็วที่สุด โดยเฉพาะการผ่าตัดศัลยกรรมจมูกที่เรียกได้ว่าเป็นการศัลยกรรมยอดฮิตสำหรับคนไทย เพราะองศาจมูกเปลี่ยน รูปหน้าก็เปลี่ยน แต่ทั้งนี้การผ่าตัดศัลยกรรมทุกอย่างมีความเสียง ซึ่งการผ่าตัดเสริมจมูกก็เช่นเดียวกัน หากเลือกคลีนิคที่ไม่ได้มาตรฐาน ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาหลังผ่าตัดดังนี้ค่ะ

1. จมูกทะลุ

สาเหตุของจมูกทะลุเกิดมาจากแท่งซิลิโคนที่ยาวเกินพอดี ทำให้ส่วนปลายจมูกแหลมเกินไปหรือมีลักษณะใสจนเกือบเห็นเนื้อซิลิโคน ซึ่งอาจเกิดจากความไม่ชำนาญและขาดประสบการณ์ของแพทย์ที่เลือกแท่งซิลิโคนที่โด่งเกินไปไม่เหมาะสมกับลักษณะจมูกของคนไข้ หรือเลือกใช้วัสดุ แข็งเกินไป และหากคนไข้ไม่ดูแลตนเอง เช่น พักผ่อนน้อย สัมผัสแผลบ่อย ไม่ดูแลทำความสะอาด ก็ทำให้จมูกทะลุได้เช่นกัน

2. จมูกติดเชื้อ

หลังจากการเสริมจมูกจะมีอาการบวมซึ่งเป็นเรื่องปกติ จะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือน กว่าจะกลับมาเป็นปกติ ซึ่งต่างจากจมูกที่ติดเชื้อโดยจะมีน้ำขุ่นๆ หรือหนองไหลออกจากแผล สาเหตุอาจจะมาจากการรับประทานอาหารแสลง เช่น ของหมักดอง การสัมผัสบ่อย จับแผล เกา ลูบบริเวณแผลบ่อย จนทำให้เกิดอาการอักเสบ รวมถึงการกระทบกระเทือนจากการจาม ไออย่างรุนแรง จนทำให้เกิดการกระแทกจนอักเสบได้

3. จมูกไหล

เกิดจากการที่แท่งซิลิโคนที่ผ่าตัดเสริมไม่แน่นพอ โดยสามารถโยกขึ้นลง เลื่อนไปซ้ายขวา หรือเคลื่อนย้ายไปจากตำแหน่งเดิม หากปล่อยไว้นานอาจจะทำให้เกิดซิลิโคนทะลุ ควรรีบปรึกษาแพทย์

4. จมูกเบี้ยว

จมูกเบี้ยวมีหลายรูปแบบ ได้แก่ โคนเอียง ปลายเอียง และแท่งจมูกเอียงทั้งหมด โดยจมูกเบี้ยวมีหลายสาเหตุ เช่น ฐานจมูก (ฮัมพ์) เดิมคดหรือเอียงอยู่แล้ว เมื่อเสริมซิลิโคนเข้าไปทำให้เอียงตามกัน เมื่อวางแท่งซิลิโคน ทำให้ซิลิโคนเลื่อนไปด้านหลังและเอียง เช่นเดียวกับผู้ที่มีโพรงจมูกไม่เท่ากัน ก็จะทำให้เกิดความชันของจมูกที่ไม่เท่ากัน และนำไปสู่จมูกเบี้ยวในที่สุด ส่วนจมูกที่มีลักษณะตรง สังเกตได้จากจุดกึ่งกลางระหว่างคิ้ว หัวตา และจุดกึ่งกลางของปลายจมูก จะอยู่กึ่งกลางของริมฝีปากบนพอดี

 

ขอบคุณข้อมูลจาก www.matichon.co.th/lifestyle/news_253693