Sculptra เปิดตัวทั้งที มีหรือ Goodwill Clinic จะพลาด! หลายคนรีบจับรีบจอง หาคลินิกฉีดกันถ้วนหน้า เคลมดังตั้งแต่เปิดตัว เพราะตัวยาเข้าไทยมาแค่ 100 คลินิก เท่านั้น ซึ่งกู๊ดวิลล์ คลินิก เองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ แอดมินขอเบรกดังเอี๊ยดดดด… ใครที่จะรีบฉีดขอให้ถามตัวเองก่อน “เราหาข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าตัว Sculptra นี้ ดีพอหรือยัง?” หลายคนแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเจ้าขวดนี้เลยเสียด้วยซ้ำ แน่นอนว่ากระแสของมันค่อนข้างแรงตั้งแต่เปิดตัวอยู่ต่างประเทศ หลายคนเลือกที่จะตามกระแสจนลืมหาข้อมูลให้ดีก่อน ใครที่ยังไม่มีข้อมูลเลย หรือใครพอมีอยู่บ้าง ก็สามารถอ่านบทความนี้ได้ แคปกันไปเลยรัวๆ เพราะวันนี้กู๊ดวิลล์คลินิก ได้นำข้อมูลที่ทุกคนควรรู้ และหลายสิ่งที่คลินิกอื่นไม่ได้บอกเกี่ยวกับเจ้าตัว Sculptra เน้นย้ำอีกครั้ง ‘อย่าพึ่งฉีด Sculptra ถ้ายังไม่รู้เรื่องเหล่านี้‘ พร้อมแล้วก็ไปอ่านกั๊นน
เลือกอ่านตามหัวข้อที่สนใจ
ToggleSculptra เรียกว่าเป็นสารกำเนิด PLLA (Poly-L-Lactic acid) กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิว ช่วยเติมเต็ม และยกกระชับใบหน้า คงรูปได้ดีกว่าการฉีดฟิลเลอร์ ชนิดไฮยารูลอนนิกเอซิด Hyaluronic Acid ทั่วไป ทำให้คืนความอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ สลายตัวช้ากว่า ทำให้อยู่ได้นานถึง 2 ปีเลยทีเดียว
PLLA หรือ Poly-L-Lactic acid เป็น Biostimulator ตัวแรก ได้รับการอนุมัติจาก FDA ในสหรัฐอเมริกาและถูกใช้ทั่วโลกตั้งแต่ปี 1999 ช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เป็นสารสังเคราะห์จากพืชที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างใต้ชั้นลึกของผิว เพื่อยกกระชับและลดริ้วรอย และทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น ซึ่งเดิมที PLLA ก็เป็นสารที่ปลอดภัย ใช้ในร่างกายมนุษย์ได้ มีการนำมาใช้ในหลายอวัยวะ แม้แต่ใช้ทำเส้นเลือดหัวใจเทียม สามารถนำมาฉีดเติมเต็มส่วนที่พร่องไปของใบหน้าได้ โดยพบว่าสารนี้สามารถกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ได้บางส่วน และอยู่ได้กึ่งถาวร นานกว่า hyaluronic acid ต่างกันตรงที่หากฉีดเข้าไปแล้วไม่ชอบ จะไม่สามารถฉีดสลายได้นั่นเอง
เอาล่ะค่ะ ก่อนเราจะรู้จักเจ้า Sculptra เนี่ย ขอพามารู้จัก คอลลาเจน กันก่อน คอลลาเจนคือโปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนัง โดยมีสัดส่วนสูงถึง 75 % ทำหน้าที่คล้ายตัวยึดกับโครงสร้างของเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกาย เช่น ผิวหนัง กระดูก กล้ามเนื้อ เล็บ เอ็น เป็นต้น ซึ่งในร่างกายของมนุษย์เรานั้น มีคอลลาเจนมากกว่า 17 ชนิด แต่หลักๆที่จะพามารู้จักวันนี้มี 5 ชนิด ได้แก่
• คอลลาเจนชนิดที่ 1 (Collagen Type I) ซึ่งเป็นชนิดที่พบมากที่สุด สูงถึง 90% ของคอลลาเจนทั้งหมดในร่างกาย
• คอลลาเจนชนิดที่ 2 (Collagen Type II) เป็นชนิดที่มีความยืดหยุ่นมากกว่าชนิดที่ 1 พบมากในกระดูก กระดูกอ่อน และข้อต่อ
• คอลลาเจนชนิดที่ 3 (Collagen Type III) มักพบร่วมกับประเภทที่ 1 คือพบในผิว กล้ามเนื้อ และผนังหลอดเลือด แต่พบได้น้อยกว่าประมาณ 10 %
• คอลลาเจนประเภทที่ 4 (Collagen Type IV) เป็นคอลลาเจนที่มีลักษณะเฉพาะตัว พบมากบริเวณเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่หุ้มกล้ามเนื้อและไขมัน
• คอลลาเจนชนิดที่ 5 (Collagen Type V) สามารถพบได้ในบริเวณเดียวกันกับชนิดที่ 1 เป็นคอลลาเจนที่เป็นองค์ประกอบของเยื่อบุเซลล์ต่าง ๆ พบในผิวของเซลล์ และเส้นผม
จากข้อมูลดั่งกล่าว จะเห็นได้ชัดว่าผิวหนังของเรา จะมีคอลลาเจนชนิดที่ 1 เป็นโครงสร้างหลัก จึงมีแรงสปริงและยืดหยุ่นดีตามไปด้วย แต่รู้หรือไม่ ว่าหลังจากอายุ 25 ปีแล้วเนี่ย ร่างกายเราจะผลิตคอลลาเจนลดลง 1% ต่อปี!!! ในขณะที่อัตราการสลายคอลลาเจนยังเท่าเดิม และเมื่อเราอายุ 45 ปี จะเป็นช่วงที่คอลลาเจนสลายหายไปเยอะที่สุด!! แม้แต่ไขมันที่สะสมง่ายก็ยังบางตัวลงในวัยนี้ เมื่อปริมาณคอลลาเจนในร่างกายลดลงเรื่อยๆ ส่งผลความแข็งแรงของผิวก็ลดลง เกิดความหย่อนคล้อยและริ้วรอยต่างๆ ตามมานั่นเองค่ะ
• เสริมสร้างความยืดหยุ่นให้กับผิว ผิวจะดูตึง ดูกระชับ
• ลดเลือนริ้วรอย และลดความหยาบกร้านของผิว
• กักเก็บความชุ่มชื้นในชั้นผิวและรักษาสมดุลน้ำในผิว
• ส่งเสริมกระบวนการสร้างและซ่อมแซมเซลล์ผิวให้เป็นไปอย่างสมบูรณ์
• ปกป้องและสร้างความแข็งแรงให้กับโครงสร้างชั้นผิวภายใน
• Sculptra ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ดยเน้นไปที่การสร้างคอลลาเจนชนิดที่ 1 ที่พบได้มากที่สุดในร่างกาย และเป็นชนิดที่ผิวต้องการมากที่สุด ช่วยเรื่องความยืดหยุ่นของผิว ยกกระชับหน้าไม่ให้หย่อนคล้อย
• Sculptra ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ชนิดที่ 3 ช่วยเรื่องการปรับปรุงคุณภาพผิว ซ่อมแซมผิวหนัง
• ช่วยลดลือนริ้วรอย ผิวเต่งตึงเรียบเนียนขึ้น ลดความหยาบกร้าน
• ช่วยฟื้นฟู รักษาสุมดุลน้ำ ผิวจะดูอิ่มฟู ดูชุ่มชื้นขึ้น
• ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าถึง 2 ปี ทำให้ Sculptra เป็นที่นิยมแพร่หลายในอเมริกา โดยผลลัพธ์สามารถเห็นได้ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรก
Sculptra ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในร่างกาย เน้นไปที่การสร้างคอลลาเจนชนิดที่ 1 และชนิดที่ 3 เมื่อคอลลาเจนทั้ง 2 ชนิดนี้ถูกผลิตขึ้นพร้อมกันจะเพิ่ม เซลล์ไฟรโบรบลาสก์ ทำให้ผิวยกกระมากขึ้น ซึ่งตามผลการวิจัยแล้วสามารถสร้างคอลลาเจนชนิดที่ 1 ได้มากถึง 66.5% หลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือน ซึ่งในปัจจุบัน Sculptra เป็นผลิตภัณฑ์เดียวที่สามารถสร้างคอลลาเจนได้สูงขนาดนี้
• Sculptra เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ มีริ้วรอยที่เห็นได้ชัดซึ่งเกิดขึ้นตามวัย
• เหมาะกับคนที่มีความกังวลเรื่องความปลอดภัย กลัวการฉีดสารเข้าร่างกาย เพราะ Sculptra เป็นสาร PLLA ที่สังเคราะห์จากพืช ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย สามารถใช้ในร่างกายมนุษย์ได้อย่างปลอดภัย
• เหมาะกับที่ต้องการปรับปรุงสภาพผิวให้ดีขึ้น ต้องการให้ผิวเรียบเนียนจากภายใน
• เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์จากการฉีดที่ยาวนาน เพราะจากการวิจัยพบว่า Sculptra สามารถให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้ยาวนานถึง 2 ปี
• ไม่ควรใช้ Sculptra ในผู้ที่แพ้ส่วนผสมใดๆ ของผลิตภัณฑ์ : poly-L-lactic acid” (PLLA), carboxymethylcellulose (USP) , non-pyrogenic mannitol (USP)
• ผู้ที่มีประวัติการเกิดคีลอยด์หรือมีแผลเป็นนูน
• ผู้ที่มีประวัติเคยแพ้ชนิดรุนแรง (Anaphylaxis)
• ผู้ที่มีการติดเชื้อที่ผิวหนังหรือเกิดการอักเสบในตำแหน่งที่ทำ
• ในระหว่างตั้งครรภ์ ให้นมบุตร
เมื่อฉีด Sculptra เข้าไปแล้ว จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงได้หลังการฉีดประมาณ 2-3 สัปดาห์ และจะมีอาการบวมประมาณ 2-3 วันก่อนจะสังเกตผลลัพธ์ได้ชัดเจน
อยู่ได้นานถึง 2 ปี และเนื่องจากเป็นการคงอยู่ของคอลลาเจนที่สร้างขึ้น บางคนอาจอยู่ได้มากกว่าหรือน้อยกว่านั้น ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดด้วย
แม้ตัวยาจะเหมือนกัน แต่สิ่งที่ทำให้ราคาในแต่ละที่ต่างกันนั้น เพราะ Sculptra ไม่ใช่ใครก็ฉีดได้ เพราะแพทย์ที่จะฉีดต้องผ่านการเทรน การรับรอง มี Certificate การันตี และนำยาเข้ามาอย่างถูกต้องตามกฏหมาย เพื่อการควบคุมคุณภาพ ความปลอดภัย และที่สำคัญคือผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งคุณหมอที่กู๊ดวิลล์ทุกท่านเป็นเทรนเนอร์ มั่นใจได้แน่นอนค่ะ
อย่างแรก ก่อนเริ่มการฉีด Sculptra ที่กู๊ดวิลล์คลินิก คนไข้จะต้องได้รับการประเมินจากแพทย์โดยละเอียด ว่าปัญหาของคนไข้นั้นเหมาะที่จะทำกี่ครั้ง ซึ่งแต่ละคนจะไม่เท่ากัน หากปัญหาเยอะมาก แพทย์จะแนะนำให้ทำประมาณ 2-4 ครั้ง ห่างกันทุก 4-6 สัปดาห์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
Sculptra ได้รับการอนุมัติจาก FDA ในสหรัฐอเมริกาและถูกใช้ทั่วโลกตั้งแต่ปี 1999 และยังปราศจากส่วนผสมของมนุษย์และสัตว์ มีความเข้ากันได้ทางชีวภาพ โดยองค์ประกอบได้รับการปรับให้เข้ากับร่างกายมนุษย์มากที่สุด ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงและการปฏิเสธ จึงไม่จำเป็นต้องมีการทดสอบการแพ้ก่อนการรักษา เมื่อเวลาผ่านไปสารออกฤทธิ์จะถูกย่อยสลายและกำจัดออกจากร่างกายอย่างสมบูรณ์
• อาจมีอาการบวม แดง ช้ำและมีอาการปวดเล็กน้อย ซึ่งหายได้เองใน 2-3 วันหลังฉีด
• ช่วงแรกของการฉีด ผิวหนังบริเวณที่ฉีดอาจมีความไม่เรียบเนียน หรืออาจพบก้อนเล็กๆ ใต้ผิวหนัง และจะดีขึ้นเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไป
• ในบางเคสอาจมีอาการอักเสบ หรือผิวหนังเปลี่ยนสีได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
• แนะนำให้นวดบริเวณที่ฉีด Sculptra ทุกวันหลังฉีดประมาณ 5 วัน
ควรงดการทำหัตถการอื่นๆ หลังฉีดประมาณ 2 – 4 สัปดาห์ เพื่อการทำงานของตัวยาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
หลายคนมีความเข้าใจว่า Sculptra กับ Filler นั้นเหมือนกัน แต่จริงๆแล้วต่างกันนะคะ ตัว Sculptra ค่อนข้างพิเศษ เพราะสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกายได้เองและเห็นผลได้ในระยะยาว ในขณะที่ Filler นั้น เมื่อเติมเข้าไปผิวจะตื้นขึ้นได้ทันที แต่อยู่ได้ไม่นาน สลายเร็ว ดังนั้นการจะเลือกฉีดตัวไหน ขึ้นอยู่กับความต้องการ รวมทั้งปัญหาบนใบหน้าของเราเป็นหลักค่ะ หากยังเลือกไม่ได้ ก็สามารถปรึกษาหรือเข้ารับการประเมินใบหน้ากับแพทย์ก่อนก็ได้เช่นกัน
• งดการฉีด หรือรักษาหน้าด้วยหัตถการอื่นๆ มาก่อน 2 – 4 อาทิตย์
• หยุดการใช้ยาแก้ปวด กลุ่มยาแอสไพริน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีดเพื่อป้องการอาการฟกช้ำ
• งดวิตามินที่กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา เป็นต้น เป็นเวลา 2 สัปดาห์
• งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-3 วัน ก่อนการฉีด
• ดูแลสุขภาพร่างกายอยู่ในสภาพปกติแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง และไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่
• ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม หลังฉีด Sculptra ใน 24 ชั่วโมงแรก
• งดเว้นการโดนความร้อน การแต่งหน้าบริเวณที่ฉีดอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
• งดออกกำลังกาย งดซาวน่า หรือกิจกรรมที่โดนความร้อน อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
• งดออกแดดจัด
• งดการทำหัตถการอื่นๆ หลังฉีดประมาณ 2 – 4 สัปดาห์
• ควรนวดหน้าหลังฉีดทันที เพื่อให้ตัวยากระจายตัวไปทั่วบริเวณใบหน้า และไปช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในบริเวณที่เราต้องการ
หลังฉีด Sculptra ไปแล้ว คนไข้ควรนวดหน้าด้วยตัวเอง ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ไม่ยาก โดยจะใช้หลักการ Triple 5 ทำการนวดครั้งละ 5 นาที วันละ 5 ครั้ง และทำติดต่อกัน 5 วัน เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนหลังจากฉีด โดยวิธีการนวดจะแบ่งเป็น 4 ขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 ให้กำมือแล้วยกนิ้วโป้งขึ้น แล้วใช้นิ้วโป้งนวดไปที่บริเวณขมับนวดไปพร้อมกับกำปั้นขึ้นไปเรื่อยๆ จนสุดไปทางด้านข้างขมับ
ขั้นตอนที่ 2 ให้ใช้นิ้วโป้งนวดไปบริเวณแก้มแล้วนวดขึ้นไปพร้อมกับกำปั้น นวดวนไปเรื่อยๆ แล้วค่อยๆ เลื่อนจากหน้าแก้มออกไปทางด้านข้างของแก้ม โดยที่มียังนวดอยู่ไม่หยุด
ขั้นตอนที่ 3 ใช้อุ้งมือหรือกำปั้นค่อยๆ นวดขึ้นไป จากบริเวณแก้มจนถึงโหนกแก้มทำซ้ำไปมาหลายๆ รอบ
ขั้นตอนที่ 4 ใช้อุ้งมือหรือกำปั้นนวดจากบริเวณคางไปยังกรามค่อยๆ นวดไปเรื่อยๆ ออกไปทางด้านข้างของใบหน้า
ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก : Galderma Thailand