ปัญหาถุงใต้ตา (Lower eyelid bags) เป็นปัญหาที่พบได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย มีลักษณะเป็นถุงบวมนูนหรือร่องลึกใต้ดวงตา ซึ่งส่งผลให้ใบหน้าดูแก่และอ่อนล้า สาเหตุหลักของการเกิดถุงใต้ตามี 2 ประการคือ
1. การสะสมของน้ำ (Fluid retention) ใต้ชั้นผิวหนัง
2. การสะสมของไขมัน (Fat herniation) บริเวณใต้ตา
ถุงใต้ตาเป็นปัญหาที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนเนื่องจากอยู่ในบริเวณ contact eyes ใกล้กับโหนกแก้ม และมักจะเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น
เลือกอ่านตามหัวข้อที่สนใจ
ถุงใต้ตานั้น สามารถเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ เช่น
1. เกิดจากผิวหนังและกล้ามเนื้อตาด้านล่างหย่อน จากอายุที่มากขึ้นส่งผลให้เกิดการเสียคอลลาเจนมากขึ้น*
2. ไขมันตาล่างที่อูมขึ้น*
3. ร่องน้ำตาที่ชัดขึ้น เพราะเนื้อเยื่อบริเวณตาล่างและหน้าแก้มยุบตัวลง (Volume loss) ทำให้เห็นถุงใต้ตาที่มากขึ้น*
4. การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ
5. การบวมน้ำ หรือการคั่งของของเหลว จากการรับประทานโซเดียมที่มากเกินไป
6. อาการแพ้
*ข้อ 1-3 เป็นถุงใต้ตาที่เกิดจากสาเหตุเฉพาะตัวบุคคลหรือกายวิภาคของแต่ละบุคคลนั้นๆ
ไม่อันตราย แต่ก็อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพได้ เช่น การบวมน้ำ หรือการบริโภคโซเดียมที่มากเกินไป แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุต่อไป ทั้งนี้ แม้ว่าการมีอยู่ของถุงใต้ตาไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าถุงใต้ตาทำให้ใบหน้าของเรานั้นดูอิดโรย ดูมีอายุมากกว่าที่ควรจะเป็น เพราะตัวถุงใต้ตาจะไปเน้นร่องลึกบริเวณใต้ตาให้ดูลึกโบ๋เข้าไปอีก ส่งผลต่อความมั่นใจ อีกทั้งในคนไข้ที่เป็นผู้หญิงส่วนใหญ่ที่มีปัญหาถุงใต้ตานั้น มักมีปัญหาช่วงใต้ตาไปถึงหน้าแก้มไม่เรียบเนียนเป็นร่อง ทำให้แต่งหน้าหรือลงเครื่องสำอางได้ลำบากมากขึ้นนั่นเอง
การผ่าตัดถุงใต้ตา คือการตัดไขมันส่วนเกินหรือการจัดเรียงไขมันบริเวณขอบตาล่าง เป็นการรักษาถุงใต้ตาที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะเป็นการรักษากึ่งถาวร อย่างน้อย 5-10 ปี ขึ้นอยู่กับตัวบุคคล โดยสามารถแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาได้ค่อนข้างครอบคลุม โดยคุณหมอสามารถตัดไขมันส่วนเกิน หรือจัดเรียงไขมันใหม่ได้ค่อนข้างละเอียด รวมถึงการตัดแต่งหนังตาส่วนเกิน ก็สามารถทำได้เช่นกัน
ในคนไข้บางเคส การมีถุงใต้ตาปูดโปน หรือเป็นนูนๆขึ้นมา จะเป็นการไปเน้นร่องลึกบริเวณช่วงใต้ตาจนไปถึงหน้าแก้มดูชัดดูลึกยิ่งขึ้น ซึ่งในคนไข้บางเคสจะไม่สามารถใช้การเติมเต็มฟิลเลอร์ช่วยแก้ปัญหาได้ทั้งหมด การผ่าตัดถุงใต้ตาจึงเป็นอีกทางเลือกเพื่อแก้ไขปัญหาในส่วนที่ฟิลเลอร์ไม่สามารถแก้ไขได้ อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าเมื่อเทียบกับการเติมเต็มด้วยฟิลเลอร์
ไม่อันตราย เนื่องจากการผ่าตัดถุงใต้ตา เป็นการเปิดแผลด้านนอกบริเวณขอบใต้ตาเพื่อตัดไขมันส่วนเกินออก ซึ่งแผลมีขนาดยาวเพียง 0.4 มิล. – 0.8 มิล. เท่านั้น (ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้ในแต่ละเคส)
1. เป็นการแก้ปัญหาถุงใต้ตาอย่างตรงจุดที่สุด เพราะในคนไข้แต่ละเคสมีปัญหาถุงใต้ตาที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละจุด คุณหมอสามารถตัดตกแต่งไขมันส่วนเกินออกมาและเก็บรายละเอียดได้มากกว่า
2. สามารถตัดตกแต่งหนังตาส่วนเกินบริเวณตาล่างได้มากกว่า
3. สามารถเย็บกระชับเอ็นตา เพื่อเพิ่มความกระชับบริเวณใต้ตาได้ดียิ่งขึ้น
4. ใต้ตาดูเรียบเนียน ไม่เป็นหลุมเป็นร่อง สามารถแต่งหน้าได้เรียบเนียนยิ่งขึ้น
5. ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่าการเติมเต็มด้วยฟิลเลอร์
1. อาจมีการบวมช้ำได้มากกว่าการเติมเต็มฟิลเลอร์
2. ใช้เวลาพักฟื้นและเข้าที่อยู่ที่ 1-2 เดือน
3. ผลลัพธ์คงอยู่ไม่ถาวร ขึ้นอยู่กับการแก่ช้า-เร็วของแต่ละคน
1. มีการตัดตกแต่งหนังตาส่วนเกินออก พร้อมเย็บกระชับเอ็นตาในทุกเคส ทำให้ใต้ตากระชับมากยิ่งขึ้น แผลเรียบเนียนสวย
2. การผ่าตัดถุงใต้ตาในทุกเคส คุณหมอจะทำการลิฟใต้ตาขึ้น ช่วยดึงผิวใต้ตาให้เรียบเนียนสวยยิ่งขึ้น
3. เพราะปัญหาถุงใต้ตาในคนไข้แต่ละท่านไม่เหมือนกัน คุณหมอจึงเน้นตั้งแต่การซักประวัติ การวินิจฉัย จนไปถึงการผ่าตัดอย่างละเอียด เพื่อทำการแก้ปัญหาอย่างตรงจุดที่สุด คนไข้จึงมั่นใจได้ว่า ผลลัพธ์ตรงตามที่คาดหวังแน่นอน
4. ราคาผ่าตัดถุงใต้ตาไม่แรง เมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้
โปรโมชั่นผ่าตัดถุงใต้ตา ผ่าตัดถุงใต้ตา ราคาโปรโมชั่น 32,000 บาท (ราคาสำหรับตา 2 ข้าง อัพเดทล่าสุด 10/10/67)
ก่อน-หลัง ทำตาสองชั้นกรีดยาว+แก้ไขกล้ามเนื้อตา+ตัดถุงใต้ตา
ก่อน-หลัง ทำตาสองชั้นกรีดยาว+ตัดแต่งหนังตาส่วนเกิน+ตัดถุงใต้ตา
บทความที่เกี่ยวข้อง
ตัดถุงใต้ตา vs ฟิลเลอร์ใต้ตา เลือกอะไรดี
ลดถุงใต้ตาง่ายๆด้วยตัวเอง
โรค MG คืออะไร ต่างกับกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงยังไง
รักษาโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ด้วยวิธี “ร้อยเอ็นเทียม”
ไขข้อสงสัย โรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง คืออะไร
ทำไมใครๆก็เป็น “กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง” ได้ง่ายจัง?
วิธีสังเกตอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงด้วยตัวเอง
มัดรวมรีวิวตา2ชั้น จากคนไข้ทุกแพลตฟอร์ม ของคุณหมอฮอลล์